Die Letzte Kaiserin จักรพรรดินีองค์สุดท้าย - นิยาย Die Letzte Kaiserin จักรพรรดินีองค์สุดท้าย : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    Die Letzte Kaiserin จักรพรรดินีองค์สุดท้าย

    หากโชคชะตานั้นได้นำพาให้เราได้มาซึ่งอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์นี้ เราก็จะน้อมรับอำนาจนั้นด้วยความปิติยินดี เพื่อให้เราได้รับใช้ปิตุภูมิแห่งนี้'ด้วยเลือดและเกียรติยศ'

    ผู้เข้าชมรวม

    619

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    32

    ผู้เข้าชมรวม


    619

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    20
    หมวด :  สงคราม
    จำนวนตอน :  7 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  16 ต.ค. 67 / 00:52 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    "Mit Blut und Ehre"

    หลังการสิ้นสุดของมหาสงครามคูร์เลียในปีดาราศักราช 1874 ซึ่งเป็นระยะเวลาสี่ปีที่ทั่วทั้งทวีปยูโรเนียนต้องพบกับความบอบช้ำของสงคราม ซึ่งยุคแห่งความสงบสุขที่กำลังจะเริ่มขึ้นนี้จะเป็นความหวังให้กับผู้คนทั่วทั้งทวีปและเป็นหมุดหมายสำคัญของสันติภาพ

    แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้คนต่างรู้สึกได้ถึงแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่จากสงครามครั้งนี้ ทั้งการเริ่มสั่งสมอาวุธ การขยายขนาดกองทัพ การวิจัยและพัฒณาอาวุธต่างๆ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เหล่าชาติต่างๆในทวีปยูโรเนียนเริ่มแสดงทาทีของตนออกมาเพื่อเตรียมก่อสงครามครั้งใหม่

    แต่สงครามครั้งใหม่นั้นก็อาจจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้เนื่องจากบรรดาชาติต่างๆต้องรับมือกับแนวคิดทางการเมืองรูปแบบใหม่ที่ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีปซึ่งมีทั้งหมดสามแนวคิดหลัก

    -สาธารณรัฐนิยม-
    ในช่วงปลายดาราศตวรรษที่ 18 เกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ในราชอาณาจักรฟรังเกียเพื่อโค่นล้มระบอบกษัตริย์แล้วเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นสาธารณรัฐ แนวคิดนี้เริ่มกระจายไปในช่วงสงครามนโปเลียนที่เหล่าบรรดาราชวงศ์ต่างๆในทวีปยูโรเนียนต่างร่วมมือทำสงครามกับจักรวรรดิฟรังเกียของจักรพรรดินโปเลียน ราโมลิโน

    -สหการนิยม-
    ในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นช่วงเวลาสังคมของชาวยูโรเนียนเปลี่ยนจากสังคมเกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรมโรงงานทำให้ผู้คนพากันอพยพเข้าเมืองเพื่อหางาน ถึงแม้การปฏิวัติอุตสาหกรรมจะส่งเสริมการจ้างงานมากขึ้นแต่ราคาสินค้าก็เพิ่มขึ้นตามสวนทางกับรายได้ของผู้คน ทำให้นักเขียนชาวไอโรเนียนามว่า คาร์ล มาร์กซ์ ได้เขียนหนังสือที่ชื่อว่า แถลงการณ์พรรคสหการนิยม ซึ่งส่งผลให้พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายต่างๆนำหนังสือเล่มนี้เป็นต้นแบบของรูปแบบการปกครองใหม่

    -ชาตินิยม-
    เนื่องด้วยการปกครองรูปแบบจักรววรดิที่ปกครองผู้คนหลายชนชาติไว้ด้วยกันทำให้บางชนชาติที่ปกครองโดยชนชาติอื่นนั้นถูกกดขี่ ซึ่งมีเหตุการณ์การจลาจลอัลส์เตอร์ในปีดาราศักราช 1798 ที่ชาวไอเรสก่อกบฎต่อกษัตริย์สหราชอาณาจักรแองเกลีย-สโกเชียเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงสัญญานการสั่นคลอนของจักรวรรดินิยม

    ซึ่งทั้งสามแนวคิดนี้นั้นได้กำลังท้าทายกับอำนาจการปกครองในรูปแบบจักรวรรดินิยมที่ปกครองทวีปนี้มาหลายพันปี และเหล่าราชวงศ์ทั่วทั้งยูโรเนียนกำลังจะเข้าสู่บททดสอบของการเอาตัวรอดเพื่อให้ตนเองนั่นจะยังคงไว้ซึ่งอำนาจที่กำลังจะถูกกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงเข้ามาแทนที่ และสิ่งเหล่านี้จะเริ่มส่งผลให้เห็นได้ชัดยิ่งขึ้นในตอนที่ศตวรรษใหม่นั้นได้เริ่มขึ้น ในปีดาราศักราชที่ 1900 เมื่อบัลลังก์แห่งจักรวรรดิไอโรเนียได้มีการผลัดเปลี่ยนและการขึ้นครองราชย์ของ 'จักรพรรดินีองค์ใหม่' เป็นจุดเริ่มต้นให้ขบวนการแนวคิดต่างๆเริ่มที่จะเคลื่อนไหวมากขึ้นพร้อมกับเหล่ามหาอำนาจต่างๆในทวีปที่ตอนนี้เริ่มแบ่งฝ่ายกันชัดเจนยิ่งขึ้น และระเบิดเวลาของสงครามกับการปฏิวัตินั้นได้ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

     (ลงเฉลี่ยประมาณเดือนละหนึ่งตอน พอดีคนเขียนไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆคือไม่ทิ้งเรื่องอย่างแน่นอน เพราะว่าเป็นประวัติ OC ของคนเขียนด้วย ขอให้อ่านให้สนุก)

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น